ปัญหาเรื่องหนู เป็นเรื่องที่ค่อนข้างหนักอก หนักใจ สำหรับใครหลายๆคน ไม่ว่าจะเจ้าของบ้าน ร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือแม้แต่สำนักงานต่างๆล้วนต้องประสบเหตุ การก่อกวนจากหนูกันถ้วนหน้า จนบางรายก็เคยชินและยอมรับไปเลยว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่เราต้องหยุดคิดตรงนี้ก่อน เพราะจริงๆแล้วปัญหาหนูระบาดไม่ใช่เรื่องที่ยอมรับได้ เพราะนอกจากหนูจะกัดแทะข้าวของเราให้เสียหาย สร้างความสกปรกให้พื้นที่ทั้งกลิ่นและมูลของหนู เรายังต้องเสี่ยงกับโรคร้ายต่างๆที่หนูอาจนำพาเข้ามาด้วย ปัญหาหนูระบาดจึงไม่ควรถูกละเลยและต้องแก้ไขด้วยวิธีที่ถูกต้อง
เราต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าหนูคือสิ่งมีชีวิตที่มีอยู่ทั่วไป(เหมือนมนุษย์เรา) อาศัยอยู่ได้ทุกที่ ใช้เวลาตั้งท้องในระยะสั้น เพียง 21-23 วัน โดยหนูตัวเมียสามารถออกลูกได้ 5-12 ตัวต่อ 1 คอก แล้วแต่สายพันธุ์ ทั้งยังสามารถตั้งท้องได้ถึง 7 ครั้ง/ปี หมายความว่า หนู 1 ตัวสามารถออกลูกได้ถึง 84 ตัวต่อปี ซึ่งในบางแหล่งข้อมูลก็มีการบ่งชี้สถิติว่า หากหนู 2 ตัว มีที่อยู่อาศัยและอาหารที่เอื้อต่อการเจริญพันธุ์ เช่น ตามบ้านร้างที่สามารถเข้าถึงแหล่งอาหารและน้ำได้เพียงพอ หนู 1 คู่นี้ก็สามารถออกลูกได้ถึง 1,000 ตัว แถมยังใช้เวลาเพียง 3 เดือนเพื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ ด้วยลักษณะพิเศษเช่นนี้ของหนูทำให้เกิดการแพร่ระบาดของหนูได้อย่างรวดเร็วเกินกว่าที่เราจะกำจัดให้หนูหมดไปได้อย่างถาวร หากเราไม่ควบคุมปัจจัยแวดล้อมที่เอื้อต่อการสืบพันธุ์ของหนูแบบพร้อมๆกันในทุกสถานที่ ดังนั้นโอกาสที่เราจะสามารถกำจัดหนูให้หมดไปได้อย่างถาวรจึงมีน้อยมากๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะจัดการกับปัญหาหนูไม่ได้เลย เพียงแต่เราต้องเข้าใจกลไกการมีชีวิตของหนูก่อน
ตามที่กล่าวไปแล้วข้างต้น หนูออกลูกมาได้จำนวนมากเมื่อมีที่อยู่และอาหารที่เหมาะสม นี่จึงเป็น 2 ปัจจัยสำคัญที่เราต้องเข้าใจและควบคุม โดยบทความนี้จะขอพูดถึงที่อยู่และอาหารของหนู 2 สายพันธุ์หลักๆที่เรามักพบเจอว่าชอบเข้ามาก่อกวนการอยู่อาศัยของเรา คือหนูนอร์เวย์ หรือ หนูท่อ (Rattus norvegicus) และ หนูหลังคา หรือ หนูท้องขาว (Rattus rattus)
หนูนอร์เวย์ หรือบางทีอาจถูกเรียกว่า หนูขยะ หนูท่อ หรือหนูสีน้ำตาล หนูชนิดนี้เป็นหนูที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตระกูล มักอยู่ตามรู ตามท่อระบายน้ำโสโครก ท่อน้ำ ใต้ถุนตึกหรือบ้านเรือน บริเวณลำคลอง กองขยะมูลฝอย ไม่ชอบขึ้นที่สูง ในขณะที่หนูหลังคา มักชอบอาศัยอยู่ตามอาคารบ้านเรือน หลังคาบ้าน บริเวณกันสาดใต้หลังคา ถ้าบริเวณรอบบ้านมีต้นไม้ แผ่กิ่งก้านสาขาอยู่ใกล้เคียงอาจพบหนูท้องขาวและรังอยู่บนต้นไม้ด้วย
หนูนอร์เวย์ ชอบกินอาหารบูดเน่า พวกแป้ง ผัก เนื้อ และปลา ส่วนหนูหลังคา กินอาหารทุกชนิด และอาหารที่ชอบมากคือ ธัญพืชต่างๆ เช่น ข้าวเปลือก ถั่ว ข้าวโพด
1. ปิดทุกช่องทางที่อาจเป็นทางเข้าของหนูสู่อาคารของเรา
จากประสบการณ์เรามักพบว่าสถานที่ที่พบปัญหาหนูระบาดมักมีช่องทางเข้าของหนู เช่น ฝ้าเป็นรูที่ยังไม่ได้รับการซ่อมแซม ฝาท่อที่ปิดไม่สนิท ประตูที่มีช่องโหว่ หน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้ ช่องพัดลมระบายอากาศที่ไม่มีฝาครอบแบบตาถี่ ฯลฯ พูดง่ายๆก็คือถ้ามีทางเข้าหนูก็เข้าสู่อาคารของคุณได้ แม้จะเป็นช่องเล็กๆที่คุณอาจมองข้าม แต่เชื่อเถอะว่าหนูพวกนี้มีทักษะมากพอ
2. คอยตัดแต่งกิ่งไม้ที่เข้ามาชนกับตัวบ้าน
คุณอาจงงว่าเกี่ยวอะไรกับต้นไม้ที่คุณปลูก แต่จริงๆมันเกี่ยวกันอย่างมาก เพราะหนูก็คือกระรอกดีๆนี่เอง ถ้ากระรอกวิ่งบนต้นไม้ได้อย่างไร หนูก็วิ่งได้แบบนั้น และถ้าหากกิ่งของต้นไม้พาดเข้าสู่ระเบียงบ้านของคุณ กิ่งไม้กิ่งนั้นก็เสมือนบันไดให้หนูได้วิ่งเข้าบ้านคุณแบบสบายๆ
3. จัดการสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมให้ดี เน้นการรักษาความสะอาด
ข้อนี้เป็นปัจจัยสำคัญมากที่สุดข้อหนึ่ง เพราะหนูจะมาหรือไม่มาอยู่ที่คุณมีอาหารให้หนูหรือไม่ ถ้าคุณทิ้งเศษอาหาร เศษขนมไว้ ตกกลางคืนหนูก็จะแอบเข้ามาตามช่องต่างๆหาอาหารตามถังขยะ หรือบนโต๊ะที่คุณวางทิ้งไว้ ดังนั้นการควบคุมรักษาความสะอาดของพื้นที่ ปิดฝาถังขยะให้เรียบร้อย อย่าปล่อยทิ้งขยะสดเอาไว้จึงสำคัญอย่างมาก เพราะถ้าหนูรู้แล้วว่าบ้านหรือออฟฟิศของคุณมีอาหาร หนูก็จะกลับมาหาอาหารที่จุดนี้เรื่อยๆ
4. การใช้วิธีชีวภาพ เข้าควบคุมและลดจำนวนหนู
วิธีนี้ยังใช้ได้ผลหากคุณอยู่ในสถานการณ์ที่ประชากรหนูยังน้อยอยู่ เพราะการใช้วิธีชีวภาพต้องใช้เวลา ถ้าเข้าช่วงระบาดแล้ววิธีนี้อาจไม่ทันการณ์ ซึ่งวิธีนี้มีผลดีที่ช่วยรักษาความสมดุลของประชากรหนูได้ตามธรรมชาติ ปลอดภัยจากสารเคมี หากคุณไม่แพ้ขนสัตว์ การเลี้ยงแมวสักตัว จึงเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย เพราะนอกจากจะช่วยกำจัดหนูแล้ว แมวยังเป็นเพื่อนที่ดีของคุณอีกด้วย
5. การกำจัดหนูโดยวิธีกล
วิธีนี้ไม่ใช่วิธีแปลกใหม่อะไร เป็นการใช้กับดักที่เราหาซื้อได้ทั่วไป เช่น กรงดักหนู กาวดักหนู เป็นต้น แต่สิ่งที่ยากของวิธีนี้คือ คุณต้องรู้เส้นทางเดินของหนู ว่าหนูวิ่งเข้าสู่บ้านหรืออาคารของคุณจากช่องทางใด คุณถึงจะดักทางได้ถูก
6. ควบคุมหนูโดยการใช้สารเคมี
ในยุคปัจจุบัน เรามีทางเลือกของผลิตภัณฑ์กำจัดหนูจำนวนมาก โดยมักนิยมใช้สารเคมีกำจัดหนูประเภทออกฤทธิ์ช้า มีความเป็นพิษและสามารถเอาชนะปัญหาความต้านทาน(ดื้อยา)ของหนูและสัตว์ฟันแทะได้ เช่น ไดเฟนาคูม (difenacoum) โบรไดฟาคูม (brodifacoum) โบรมาดิโอโลน (bromadiolone) โฟลคูมาเฟน (flocoumafen) และ ไดเฟทิโอโลน (Difethialone) สารเคมีกลุ่มนี้สามารถกำจัดหนูด้วยการกินเพียงครั้งเดียวก็ถึงตายได้ อย่างไรก็ดีการควบคุมหนูโดยการใช้สารเคมีเหล่านี้ ต้องดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญจะดีที่สุดเพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย
7. การใช้สารไล่หนู
ในกรณีที่เราอยากจัดการปัญหาด้วยวิธีที่ไม่โหดร้ายกับหนูมากนัก เราก็มีผลิตภัณฑ์สเปรย์สำหรับไล่และป้องกันหนูเป็นทางเลือก บางผลิตภัณฑ์ทำจากสารสกัดธรรมชาติ ปลอดภัยต่อการใช้งาน โดยคุณสามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป วิธีการใช้ก็ง่าย เพียงแค่สเปรย์ตามจุดที่ต้องการเพื่อป้องกันการเข้าทำลายของหนู แต่คุณต้องศึกษาข้อมูลการใช้งานและข้อห้ามอย่างละเอียด เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง
แม้ว่าการกำจัดหนูให้หมดไปอย่างถาวรจะเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก แต่เราก็ไม่ควรทิ้งความพยายาม สิ่งที่ควรทำก็ต้องทำต่อไป ทั้งเรื่องการรักษาความสะอาด การปิดช่องทางเข้าต่างๆของอาคารไม่ให้หนูเข้ามาได้ การดูแลรักษาพื้นที่โดยรอบบริเวณอาคารให้เรียบร้อย ไม่ให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของหนูและสัตว์รบกวนอื่นๆ หรือถ้าในกรณีที่พบว่าเกิดภาวะหนูระบาดแล้ว การพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญในการกำจัดแมลงและสัตว์กวนก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะผู้เชี่ยวชาญสามารถประเมินสถานการณ์เบื้องต้น ให้คำแนะนำ และเลือกวิธีการที่เหมาะสมให้คุณได้ อีกทั้งยังเป็นผู้รู้วิธีการใช้สารเคมีอย่างถูกวิธี(ในกรณีที่ต้องใช้) ช่วยประหยัดเวลาในการแก้ไขปัญหา ก็ลดความกังวลใจของคุณลงไปได้อีกมากเลยทีเดียว